“สิงโตคำราม” ใกล้ถึงความจริงกับเส้นทางการคว้าแชมป์ยูโร 2020

ชัยชนะของฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ที่เอาชนะทีมชาติยูเครนไปได้ 4-0 ในรอบ 8 ทีมของศึกยูโร 2020 ทำให้แฟนบอลในดินแดนผู้ดีของประเทศอังกฤษกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แถมยังสามารถมองถึงทะลุรอบชิงชนะเลิศได้ด้วยซ้ำไป กลายเป็นทีมตัวเต็งอย่างเต็มตัวสำหรับเส้นทางการคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร กับสไตล์ฟุตบอลที่ดูน่าเบื่อแต่มีความแข็งแกร่งในรอบด้าน อะไรที่ทำให้อังกฤษมาถึงจุดนี้ได้สำเร็จ

“ทัพสิงโตคำราม” กำลังจะเข้าไปในรอบ 4 ทีมสุดท้ายด้วยการตัดเชือกกับทีมชาติเดนมาร์ก ซึ่งถือว่าน่าจะเป็นทีมที่ง่ายที่สุดในบรรดาทั้งหมดสี่ทีมนี้ แต่ก็ยังประมาทไม่ค่อยได้เพราะเดนมาร์กเองก็ยิ่งเล่นยิ่งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ถ้าพูดถึงจิตใจและความทะเยอทะยานของพวกเขาถือว่าเต็มร้อยแน่นอน 

ส่วนอังกฤษก็มาในแนวเดียวกัน โดยช่วงแรกอาจจะมีกระแสวิพากย์วิจารณ์ในการวางตัวผู้เล่นของ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ทั้งๆ ที่มีตัวผู้เล่นอย่างครบครัน ซึ่งในแต่ละคนนั้นมีทักษะส่วนตัวสูงและทำผลงานได้ดีในระดับสโมสร แต่ก็เลือกที่จะดองนักเตะไว้บนที่นั่งสำรอง แล้วเลือกใช้นักเตะลูกรักอย่างราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงสนามแทบจะทุกนัดทำให้แฟนบอลต่างก็ตั้งคำถามว่าทำไมถึงเอานักเตะจอมเลี้ยงลงอยู่บ่อยๆ

แต่พอเริ่มจากนัดที่สองยาวจนมาถึงนัดล่าสุดที่เอาชนะยูเครนได้สำเร็จ ทำให้หลายคนที่ตำหนิทั้งนักเตะและตัวของผู้จัดการทีม ก็เริ่มที่จะเปิดใจและชื่นชมผลงานการทำทีมในทัวร์นาเมนท์ยูโร 2020 ครั้งนี้ จากที่เห็นในเกมล่าสุดกับยูเครน ต้องบอกว่าอังกฤษไม่ได้เป็นเหมือนเดิมแล้ว พวกเขาล้างอาถรรพ์ให้กับตัวเองได้สำเร็จ จากการเขี่ยเยอรมันตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย และเกมล่าสุดพวกเขาก็ยังช่วยกันเรียงหน้าโหม่งทำประตูไปทั้งสามลูก ได้แก่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และแฮร์รี่ เคน ทั้งยิงทั้งโหม่ง

นักเตะคนสำคัญในทีมชาติอังกฤษที่จะเป็นคีย์แมนในการคว้าแชมป์ยูโร 2020

เริ่มจากกองหน้าตัวเป้าอย่าง แฮร์รี่ เคน ที่กลับมาพังประตูได้ทุกเวลาจริงๆ ตั้งแต่เกมที่เจอทีมชาติเยอรมันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถึงแม้ช่วงในรอบแบ่งกลุ่มอาจจะดูไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ แต่ยังไง เคน ก็ยังเป็นตัวสำคัญและเป็นทีเด็ดของทีมในการทำประตูอยู่เสมอ

เกมรุกคนที่สอง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง นักเตะที่ถูกแฟนบอลบ่นที่สุดในทีม แต่ก็สามารถทำประตูได้เกือบทุกเกมโดยรรายการนี้เจ้าตัวซัดไปแล้ว 3 ประตู และถึงแม้ว่าในเกมที่พบยูเครนจะไม่ได้ทำประตูแต่ก็สามารถแอสซิตส์ผ่านให้แฮร์รี่ เคน ยิงประตูแรกได้สำเร็จและถือว่ามีส่วนร่วมในเกมเป็นอย่างมาก

ส่วนเกมรับที่รู้สึกว่าทัพสิงโตดูมีความเหนียวแน่นขึ้นคือการกลับมาของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่สามารถควบคุมแผงหลังได้อย่างลงตัวและยังสามารถโหม่งทำประตูชัยในเกมยูเครนได้สำเร็จ อีกคนที่มีความโดดเด่นทั้งเกมรับและเกมรุกคงจะหนีไม่พ้น ลุค ชอว์ ที่ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงตั้งแต่เกมที่สองเป็นต้นมา ก็จัดการใช้โอกาสนั้นอย่างเต็มที่ ยิ่งเกมล่าสุดก็สามารถแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูได้ถึง 2 แอสซิสต์

ทั้งนี้ยังมีตัวสำรองอีกหลายคนที่สำคัญไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็น แจ็ค กรีลิช , ฟีล โฟลเด้น , เจดอน ซานโช่ , มาร์คัส แรชฟอร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และคนอื่นๆ อีกมากมาย และเมื่อไหร่ที่ได้ลงสนามพวกเขาก็จะใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าในการลงเล่นจนช่วยให้ทีมได้รับชัยชนะ